หัวข้อ
- #สุขภาพทางการเงิน
- #อัตราส่วนเงินสดในมือ
- #หนี้สินระยะสั้น
- #การลงทุน
- #งบการเงิน
สร้าง: 2024-09-07
สร้าง: 2024-09-07 12:03
อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน (Current Ratio) เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญเมื่อดูงบการเงิน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต้องจดจำให้ได้
อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน (Quick ratio)เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นของธุรกิจ โดยหมายถึง 'อัตราส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนเร็วต่อหนี้สินหมุนเวียน'โดยที่สินทรัพย์หมุนเวียนเร็ว หมายถึง เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้า หลักทรัพย์ระยะสั้น ฯลฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที และหนี้สินหมุนเวียน หมายถึง หนี้สินที่ต้องชำระภายใน 1 ปีนั่นเอง
พูดให้เข้าใจง่ายๆ อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน คือ ตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าธุรกิจสามารถใช้เงินสดและลูกหนี้การค้าที่มีอยู่ ชำระหนี้ระยะสั้นได้เร็วแค่ไหน โดยทั่วไปแล้ว หากอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนมากกว่า 100% จะถือว่ามีความมั่นคง แต่หากต่ำกว่า 70% อาจมีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาในการชำระหนี้ระยะสั้น
ดังนั้น เพื่อการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จึงจำเป็นต้องวิเคราะห์งบดุลของธุรกิจ รวมถึงอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน เพื่อประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นและความมั่นคง นอกจากนี้ อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนยังให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวางแผนการจัดหาและใช้เงินทุนของธุรกิจอีกด้วย
เหตุผลที่นักลงทุนควรทราบอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนก็เพราะว่า เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญอย่างยิ่งในการประเมินศักยภาพในการชำระเงินและเครดิตของธุรกิจนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น หากอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนของธุรกิจต่ำ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะประสบปัญหาในการชำระหนี้ระยะสั้น ซึ่งอาจนำไปสู่การลดลงของเครดิตและต้นทุนในการจัดหาเงินทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน หากอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนสูง ก็แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นที่ดี ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความมั่นคงของธุรกิจในสายตาของนักลงทุน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในหุ้น สภาพการเงินของธุรกิจมีผลกระทบอย่างมากต่อราคาหุ้น ดังนั้น จึงควรใช้ตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน ในการตัดสินใจลงทุนอย่างจริงจัง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุนและเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด
อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนคำนวณได้จากสูตรต่อไปนี้
โดยที่'สินทรัพย์หมุนเวียนเร็ว'หมายถึง เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด หลักทรัพย์ระยะสั้น ลูกหนี้การค้า ฯลฯ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที และ'หนี้สินหมุนเวียน'หมายถึง หนี้สินที่ต้องชำระภายใน 1 ปี
ในกรณีนี้ เราสามารถคูณทั้งตัวเศษและตัวส่วนด้วยสินทรัพย์รวม เพื่อหาอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนที่ปรับปรุงแล้ว ซึ่งเป็นการใช้เพื่อเปรียบเทียบเชิงสัมพัทธ์ เนื่องจากองค์ประกอบของสินทรัพย์หมุนเวียนเร็วและหนี้สินหมุนเวียนแตกต่างกันไปในแต่ละประเภทธุรกิจ
โดยทั่วไปแล้ว อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนที่คำนวณได้ หากมากกว่า 100% จะถือว่าอยู่ในระดับดี แต่หากต่ำกว่า 70% จะถือว่าไม่ดี อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เกณฑ์ที่ตายตัว และอาจมีการปรับใช้แตกต่างกันไปตามประเภทธุรกิจและลักษณะเฉพาะของธุรกิจ
อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นของธุรกิจ โดยยิ่งสูง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าสุขภาพทางการเงินของธุรกิจดี เหตุผลก็คือ
แม้ว่าอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนจะเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในการประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นของธุรกิจ แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังบางประการ
อัตราส่วนเงินสดหมุนเวียนเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในการประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะสั้นของธุรกิจ แต่ควรพิจารณาร่วมกับอัตราส่วนทางการเงินอื่นๆ
ตัวอย่างเช่น อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์ (Debt-to-asset ratio) เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในการประเมินศักยภาพในการชำระหนี้ระยะยาวของธุรกิจ และอัตราส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยจ่าย (Interest Coverage Ratio) เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในการประเมินศักยภาพในการชำระดอกเบี้ยของธุรกิจ อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้การค้า (Accounts Receivable Turnover) เป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในการประเมินระยะเวลาในการเก็บเงินจากลูกหนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของสินทรัพย์หมุนเวียนเร็ว
ดังนั้น เพื่อการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จึงควรพิจารณาอัตราส่วนทางการเงินต่างๆ รวมถึงอัตราส่วนเงินสดหมุนเวียน เพื่อประเมินสภาพการเงินและผลการดำเนินงานของธุรกิจอย่างครบถ้วน
เนื่องจากเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินความมั่นคงของธุรกิจ จึงควรจดจำและนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ความคิดเห็น0