เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ คือ เทคโนโลยีที่ใช้ข้อมูลทางชีวภาพเฉพาะบุคคลในการยืนยันตัวตน สามารถใช้ลักษณะทางชีวภาพที่หลากหลาย เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า ม่านตา เสียง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติที่สำคัญ
การจดจำลายนิ้วมือ
ลายนิ้วมือเป็นลักษณะทางชีวภาพเฉพาะบุคคลและไม่เปลี่ยนแปลง จึงเป็นเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุด
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การปลดล็อกสมาร์ทโฟน ระบบการจัดการการเข้าออกของบริษัท การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือของตู้เอทีเอ็มธนาคาร เป็นต้น
การจดจำใบหน้า
เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าจะวิเคราะห์จุดเด่นของใบหน้าเพื่อระบุตัวตน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลที่จุดตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบิน ระบบเฝ้าระวังของประเทศจีน การปลดล็อกอุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย Apple Face ID เป็นต้น
การจดจำม่านตา
ม่านตาคือชั้นเม็ดสีของดวงตา มีรูปแบบเฉพาะบุคคล
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การจัดการการเข้าออกของสนามบินดูไบ การตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลของโครงการ Aadhaar ในอินเดีย ฟังก์ชันการจดจำม่านตาของสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy เป็นต้น
การจดจำเสียง
เทคโนโลยีการจดจำเสียงจะวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของเสียงเพื่อระบุตัวตน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การยืนยันตัวตนด้วยเสียงของศูนย์บริการลูกค้าธนาคาร ฟังก์ชันผู้ช่วยเสียงของอุปกรณ์สมาร์ทโฮม การช้อปปิ้งด้วยเสียงของ Amazon Alexa เป็นต้น
การจดจำเส้นเลือด
เทคโนโลยีที่ใช้รูปแบบเส้นเลือดบนมือหรือบนนิ้วมือในการระบุตัวตนมีความแม่นยำสูง
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การยืนยันตัวตนด้วยเส้นเลือดของตู้เอทีเอ็มธนาคารในญี่ปุ่น การตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลของสถานพยาบาล ระบบควบคุมการเข้าออกของหน่วยงานราชการบางแห่ง เป็นต้น
การจดจำพฤติกรรม
เทคโนโลยีที่ใช้การวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรม เช่น การเดินหรือการพิมพ์ของบุคคล เพื่อยืนยันตัวตน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การยืนยันตัวตนด้วยการเดินของสมาร์ทโฟน ระบบความปลอดภัยที่ใช้รูปแบบการพิมพ์คีย์บอร์ด การระบุตัวตนของผู้ใช้เครื่องเกม เป็นต้น
สาขาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ
ระบบความปลอดภัย
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติช่วยเพิ่มความปลอดภัยด้วยการควบคุมการเข้าออกและการเข้าถึง
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าของตำรวจนิวยอร์ก ระบบควบคุมการเข้าออกของบริษัท การควบคุมการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานไอที เป็นต้น
การดูแลสุขภาพและการแพทย์
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติใช้ในการยืนยันตัวตนของผู้ป่วยและการเข้าถึงประวัติการรักษาพยาบาล
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การจดจำลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ป่วยในโรงพยาบาล การยืนยันตัวตนของผู้ใช้เครื่องมือแพทย์ การใช้เทคโนโลยีการจดจำเสียงในการให้บริการทางไกล เป็นต้น

เทคโนโลยีชีวมาตร
บริการทางการเงิน
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติใช้ในการเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: การเข้าสู่ระบบแอปธนาคารด้วยลายนิ้วมือและการจดจำใบหน้า การยืนยันตัวตนในการเปิดบัญชีแบบไม่ต้องพบหน้า การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือและเส้นเลือดของตู้เอทีเอ็ม เป็นต้น
อุปกรณ์เคลื่อนที่และแอปพลิเคชัน
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติใช้ในการปลดล็อกอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และการเข้าสู่ระบบแอปพลิเคชัน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: Apple Face ID และ Touch ID สมาร์ทโฟน Android ที่ใช้การจดจำลายนิ้วมือ สมาร์ทโฟน Samsung ที่ใช้การจดจำม่านตา เป็นต้น
ความปลอดภัยสาธารณะและการบังคับใช้กฎหมาย
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติใช้ในการป้องกันอาชญากรรมและกระบวนการสืบสวน
- ตัวอย่างการประยุกต์ใช้: ตำรวจตรวจสอบเอกลักษณ์ของผู้ต้องสงสัย จุดตรวจสอบความปลอดภัยของสนามบิน การเพิ่มความปลอดภัยในงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติ
ข้อดี
- เพิ่มความปลอดภัย: เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากใช้ข้อมูลทางชีวภาพเฉพาะบุคคล
- เพิ่มความสะดวกสบาย:สะดวกกว่าเนื่องจากสามารถยืนยันตัวตนได้ด้วยข้อมูลทางชีวภาพโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านหรือบัตร
ข้อเสีย
- ปัญหาความเป็นส่วนตัว: ข้อมูลทางชีวภาพเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน การรั่วไหลอาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
- ข้อจำกัดทางเทคนิค: เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติอาจทำงานผิดพลาดได้เนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมหรือข้อผิดพลาดทางเทคนิค
สรุป
เทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติมีส่วนสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย และถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลากหลายสาขาอย่างแพร่หลาย คาดว่าในอนาคตจะมีการประยุกต์ใช้ในสาขาต่างๆ เพิ่มมากขึ้น การศึกษาศักยภาพของเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยชีวมิติและการคำนึงถึงประเด็นด้านจริยธรรม เช่น การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เป็นสิ่งสำคัญ
ความคิดเห็น0