Cherry Bee

คำศัพท์งบการเงินที่นักลงทุนหุ้นควรรู้จัก ‘กำไรสุทธิของงวด’

  • ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
  • ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศcountry-flag
  • เศรษฐกิจ

สร้าง: 2024-08-03

สร้าง: 2024-08-03 11:51

กำไรสุทธิคืออะไร?

กำไรสุทธิเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางการเงินที่สำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนในหุ้น ซึ่งหมายถึงผลกำไรขั้นสุดท้ายที่เหลืออยู่หลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาษีออกจากรายได้ที่บริษัทได้รับในช่วงเวลาหนึ่ง ง่ายๆ ก็คือ ตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าบริษัททำเงินได้เท่าไหร่ในรอบปี

เหตุผลที่สำคัญก็คือ กำไรสุทธิมีบทบาทสำคัญในการประเมินผลการดำเนินงานของบริษัท ยิ่งสูงแสดงว่าบริษัทดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและทำกำไรได้มาก ในทางกลับกัน หากต่ำแสดงว่าบริษัทกำลังประสบปัญหาหรือค่าใช้จ่ายสูงเกินกว่ารายได้

การพิจารณากำไรสุทธิในการตัดสินใจลงทุนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากบริษัทที่มีกำไรสุทธิสูงมีแนวโน้มที่จะเติบโตและพัฒนาต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม นี่ไม่เพียงพอที่จะใช้ในการตัดสินใจ ต้องวิเคราะห์ร่วมกับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ และพิจารณาถึงแนวโน้มและความสามารถในการแข่งขันของบริษัทด้วย

วิธีการคำนวณกำไรสุทธิ

กำไรสุทธิคำนวณได้จากการนำรายได้หักด้วยต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รายได้และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นต้น รายละเอียดของแต่ละรายการมีดังนี้

  • รายได้: หมายถึงรายได้ที่บริษัทได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการ
  • ต้นทุนขาย: หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการผลิตหรือซื้อสินค้าหรือบริการ ในกรณีของภาคการผลิตจะรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบ ค่าแรง ค่าใช้จ่ายในการผลิต เป็นต้น
  • ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร: หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการขายสินค้าหรือบริการหรือในการดำเนินงานของบริษัท เช่น ค่าจ้าง ค่าโฆษณา ค่าเช่า ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น
  • รายได้อื่นๆ: หมายถึงรายได้ที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมที่นอกเหนือจากการดำเนินงาน เช่น รายได้จากดอกเบี้ย รายได้จากเงินปันผล รายได้จากการเช่า เป็นต้น
  • ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: หมายถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกิจกรรมที่นอกเหนือจากการดำเนินงาน เช่น ค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ย ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เงินบริจาค เป็นต้น
  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล: หมายถึงภาษีที่เรียกเก็บจากกำไรที่บริษัทได้รับ

ตัวอย่างเช่น หากบริษัท A มีรายได้ 100 ล้านบาท ต้นทุนขาย 50 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 20 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 10 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอื่นๆ 30 ล้านบาท และภาษีเงินได้นิติบุคคล 10 ล้านบาท กำไรสุทธิของบริษัท A จะเท่ากับ 100 ล้านบาท - 50 ล้านบาท - 20 ล้านบาท + 10 ล้านบาท - 30 ล้านบาท - 10 ล้านบาท = 0 ล้านบาท

ในงบการเงิน กำไรสุทธิจะแสดงไว้ที่ส่วนล่างสุดของงบกำไรขาดทุน และหน่วยที่ใช้แสดงจะเป็นบาทหรือล้านบาท เป็นต้น

การวิเคราะห์สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิ

กำไรสุทธิเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่แสดงถึงผลการดำเนินงานของบริษัท และเป็นข้อมูลที่สำคัญมากสำหรับนักลงทุนในหุ้น ดังนั้น การวิเคราะห์สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงกำไรสุทธิจึงเป็นขั้นตอนที่จำเป็นก่อนการลงทุนในหุ้น

สาเหตุพื้นฐานที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงของรายได้ หากรายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น แสดงว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทได้รับความนิยมในตลาด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี ในทางกลับกัน หากรายได้ลดลง แสดงว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทกำลังสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดี

ถัดมาคือ การเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่าย โดยทั่วไปแล้ว หากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น กำไรสุทธิจะลดลง และหากค่าใช้จ่ายลดลง กำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอาจเป็นประโยชน์ต่อการเติบโตของบริษัท ตัวอย่างเช่น การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนาอาจถือเป็นการลงทุนเพื่อการเติบโตในอนาคต

นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย ปัญหาทางการเมือง ฯลฯ ก็สามารถส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิได้เช่นกัน ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง ปัจจัยภายนอกเหล่านี้คาดการณ์ได้ยาก ดังนั้นก่อนการลงทุนในหุ้น จึงต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยภายในของบริษัทและปัจจัยภายนอกด้วย

ความสัมพันธ์กับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ

กำไรสุทธิเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักที่แสดงถึงผลการดำเนินงานของบริษัท ดังนั้นจึงมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ

ในบรรดาตัวชี้วัดเหล่านี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ROE คือค่าที่ได้จากการนำกำไรสุทธิหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้ส่วนของผู้ถือหุ้นในการสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด

ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีกำไรสุทธิ 10,000 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 100,000 ล้านบาท ROE ของบริษัทจะเท่ากับ 10% ซึ่งหมายความว่าบริษัทได้ผลตอบแทน 10 ล้านบาทจากการลงทุนส่วนของผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท และแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพในการบริหารงานของบริษัทนั้นสูง

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ก็มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับกำไรสุทธิ อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นคือค่าที่ได้จากการนำหนี้สินรวมหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินความมั่นคงทางการเงินของบริษัท

หากอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทสูง แสดงว่าบริษัทอาจประสบปัญหาในการจัดหาเงินทุนหรือมีค่าใช้จ่ายทางการเงินสูง เช่น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลให้กำไรสุทธิลดลง ในทางกลับกัน หากอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำ ก็อาจมีโอกาสที่จะได้กำไรสุทธิที่สูงขึ้น

การประเมินมูลค่าของบริษัทโดยใช้กำไรสุทธิ

กำไรสุทธิเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักที่แสดงถึงผลการดำเนินงานของบริษัท และเป็นข้อมูลที่สำคัญมากสำหรับนักลงทุนในหุ้น โดยใช้ในการประเมินว่าราคาหุ้นของบริษัทนั้นเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งมีเกณฑ์ที่เป็นประโยชน์บางประการดังนี้

  • การเปรียบเทียบกับ PER (อัตราส่วนราคาต่อกำไร)PER คือค่าที่ได้จากการนำราคาหุ้นปัจจุบันหารด้วยกำไรต่อหุ้น (EPS) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นของบริษัทนั้นเป็นกี่เท่าของกำไรต่อหุ้น หาก PER ของบริษัท A เท่ากับ 10 เท่า แต่ PER ของบริษัท B เท่ากับ 5 เท่า แสดงว่าราคาหุ้นของบริษัท B นั้นถูกกว่า ในกรณีที่กำไรสุทธิของทั้งสองบริษัทใกล้เคียงกัน การลงทุนในบริษัท B อาจจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
  • การเปรียบเทียบกับ PBR (อัตราส่วนราคาต่อมูลค่าตามบัญชี)PBR คือค่าที่ได้จากการนำมูลค่าตลาดหารด้วยมูลค่าตามบัญชี ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ประเมินว่าราคาหุ้นของบริษัทนั้นถูกประเมินค่าสูงเกินไปหรือต่ำเกินไปหรือไม่ กล่าวคือ หาก PBR น้อยกว่า 1 แสดงว่าราคาหุ้นนั้นต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชี (มูลค่าที่สามารถขายทอดตลาดได้) และหาก PBR น้อยกว่า 0.5 ถือว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจในการซื้อ
  • อัตราส่วน EV/EBITDA (มูลค่าขององค์กร/กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย)ก็มีความสัมพันธ์กันด้วย ค่านี้ได้จากการนำมูลค่าขององค์กร (EV) หารด้วยกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างกระแสเงินสดได้มากน้อยเพียงใดจากการใช้เงินทุนของตนเองและเงินทุนของผู้อื่น และควรเปรียบเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน เนื่องจากอาจมีความแตกต่างกันระหว่างประเทศและบริษัท โดยทั่วไปแล้ว หากอัตราส่วนนี้ต่ำแสดงว่ามูลค่าขององค์กรนั้นต่ำกว่ากระแสเงินสดที่สร้างขึ้นจากการดำเนินงาน ซึ่งบ่งชี้ว่ามีโอกาสที่ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นในอนาคต

ข้อจำกัดและข้อควรระวังของกำไรสุทธิ

ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว กำไรสุทธิเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในการแสดงผลการดำเนินงานของบริษัท แต่ก็มีข้อจำกัดและข้อควรระวังบางประการ

ประการแรก ขึ้นอยู่กับวิธีการบันทึกบัญชี กำไรสุทธิอาจแตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น เวลาที่บริษัทบันทึกค่าใช้จ่ายหรือวิธีการประเมินมูลค่าสินทรัพย์คงคลังอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของกำไรสุทธิ ดังนั้น บริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกันอาจมีกำไรสุทธิที่แตกต่างกัน

ประการที่สอง มีข้อจำกัดในการคาดการณ์ผลกำไรในอนาคต เนื่องจากกำไรสุทธิเป็นตัวชี้วัดที่แสดงถึงผลการดำเนินงานในอดีต ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจหรือการเกิดขึ้นของคู่แข่งรายใหม่ต่ำ ดังนั้น การตัดสินใจลงทุนในหุ้นโดยพิจารณาจากกำไรสุทธิเพียงอย่างเดียวอาจมีความเสี่ยง

ประการสุดท้าย อาจถูกบิดเบือนโดยปัจจัยชั่วคราว ตัวอย่างเช่น หากบริษัทปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่หรือขายสินทรัพย์ กำไรสุทธิอาจเพิ่มขึ้นชั่วคราว แต่สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานที่แท้จริงของบริษัท ในทำนองเดียวกัน เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนหรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาจทำให้กำไรสุทธิเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

ดังนั้น นักลงทุนในหุ้นควรพิจารณาตัวชี้วัดทางการเงินต่างๆ รวมถึงกำไรสุทธิ และวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจและกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัท เพื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ

สรุป

วันนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นหนึ่งในศัพท์ทางการเงินพื้นฐานที่จำเป็นต้องรู้สำหรับการลงทุนในหุ้น

ความคิดเห็น0

3 ประเด็นสำคัญกว่าสไตล์ในการเลือกหุ้น: 1) บริษัทที่ดี 2) หุ้นที่ดี 3) ราคาที่ดีการซื้อหุ้นของบริษัทที่ดีที่มีการเติบโตในราคาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ และควรพิจารณาถึงความสำคัญของผู้ถือหุ้นรายย่อยในสายตาของผู้บริหารด้วย
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

April 3, 2024

คำถามเกี่ยวกับ DCF (วิธีคิดลดกระแสเงินสด) ในวิธีการประเมินมูลค่าบริษัทเป็นคำถามจากสตาร์ทอัพที่ใช้ DCF ในการประเมินมูลค่าธุรกิจ โดยมีคำถามต่างๆ เกี่ยวกับสูตรคำนวณ DCF, การตั้งค่าอัตราคิดลด, และวิธีการทำสัญญาลงทุนเพื่อคุ้มครองความลับทางการค้า
s-valueup
s-valueup
s-valueup
s-valueup

May 16, 2025

เป้าหมายความมั่งคั่ง (ตามจำนวนเงิน)อ้างอิงจากหนังสือ "เพื่อนบ้านเศรษฐี" เพื่อกำหนดเป้าหมายจำนวนเงินและวิธีการเพื่อความมั่งคั่ง โดยวางแผนเพิ่มสินทรัพย์สุทธิผ่านการออมและการลงทุน
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마

April 20, 2024

เหตุผลที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นและนโยบายการคืนผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้น ในขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีผลตอบแทนที่ต่ำเนื่องจากการลดทอนคุณค่าของผู้ถือหุ้น
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

April 3, 2024

[หุ้นต่างประเทศ] ซื้อหุ้นแล้วได้เงินใช้ทุกเดือน? ข้อมูลและการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (2/2)รวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (O) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และข้อมูลเกี่ยวกับเงินปันผล หุ้นที่น่าสนใจที่สามารถรับเงินปันผลเหมือนได้เงินใช้ทุกเดือน แต่ก็มีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
이영도
이영도
이영도
이영도

April 21, 2024