Try using it in your preferred language.

English

  • English
  • 汉语
  • Español
  • Bahasa Indonesia
  • Português
  • Русский
  • 日本語
  • 한국어
  • Deutsch
  • Français
  • Italiano
  • Türkçe
  • Tiếng Việt
  • ไทย
  • Polski
  • Nederlands
  • हिन्दी
  • Magyar
translation

นี่คือโพสต์ที่แปลด้วย AI

Cherry Bee

นักลงทุนหุ้นควรรู้จัก ROE (อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น)

  • ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
  • ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศ country-flag

เลือกภาษา

  • ไทย
  • English
  • 汉语
  • Español
  • Bahasa Indonesia
  • Português
  • Русский
  • 日本語
  • 한국어
  • Deutsch
  • Français
  • Italiano
  • Türkçe
  • Tiếng Việt
  • Polski
  • Nederlands
  • हिन्दी
  • Magyar

สรุปโดย AI ของ durumis

  • ROE เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพการใช้เงินทุนของบริษัท ROE สูงหมายถึงผลกำไรและศักยภาพการเติบโตของบริษัท แต่ควรพิจารณาปัจจัยชั่วคราวหรือระดับหนี้สินเพื่อประเมินความยั่งยืน
  • นักลงทุนควรวิเคราะห์ตัวชี้วัดทางการเงินหลายอย่างรวมทั้ง ROE เพื่อประเมินความมั่นคงและการเติบโตของบริษัท และใช้ในการตัดสินใจลงทุน
  • บริษัทที่มีแนวโน้ม ROE ปรับตัวดีขึ้นหรือมี ROE สูงกว่าคู่แข่งอาจเป็นเป้าหมายการลงทุน แต่ควรประเมินผลโดยรวมโดยพิจารณาตัวชี้วัดทางการเงินอื่น ๆ เช่น PER, PBR เพื่อตัดสินใจลงทุน

ROE นั่นคืออัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น แสดงถึงประสิทธิภาพของบริษัทในการใช้ทุนเพื่อสร้างผลกำไร และเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจลงทุน

นิยามของ ROE (Return on Equity, อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น)

หนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญซึ่งนักลงทุนในหุ้นควรทราบคือROE (Return on Equity, อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น)ตัวชี้วัดนี้แสดงถึงความสามารถของบริษัทในการทำกำไรจากเงินทุนของผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการของบริษัท

โดยทั่วไป ROE คำนวณจากการหารกำไรสุทธิของงวดด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น โดยกำไรสุทธิในที่นี้คือกำไรที่ได้จากการหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด (วัตถุดิบ แรงงาน ภาษี) ออกจากรายได้ ในขณะที่ส่วนของผู้ถือหุ้นคือส่วนที่เหลือของสินทรัพย์ของบริษัทหลังจากหักหนี้สินออกไป นั่นหมายความว่า ROE แสดงให้เห็นว่าบริษัททำเงินได้มากเพียงใดจากเงินทุนของผู้ถือหุ้นอย่างแท้จริง

โดยทั่วไป ROE ที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีของบริษัท ซึ่งหมายความว่าบริษัทใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลกำไรสูง ในทางกลับกัน ROE ที่ต่ำบ่งบอกถึงการใช้เงินทุนอย่างไม่มีประสิทธิภาพหรือผลกำไรที่ไม่ดี ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง

นักลงทุนควรพิจารณาตัวชี้วัดทางการเงินต่างๆ รวมถึง ROE เมื่อเลือกหุ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาสามารถประเมินความมั่นคงและศักยภาพการเติบโตของบริษัทและตัดสินใจลงทุนได้อย่างเหมาะสม

วิธีการคำนวณ ROE และความเข้าใจสูตร

ดังที่กล่าวไปแล้ว ROE คำนวณโดยใช้สูตร 'กำไรสุทธิ/ส่วนของผู้ถือหุ้น' ลองมาดูองค์ประกอบแต่ละอย่างกัน

  • กำไรสุทธิ (Net Income) : แสดงถึงกำไรสุทธิที่บริษัทได้รับในช่วงเวลาบัญชีใดๆ โดยเป็นจำนวนเงินที่เหลืออยู่หลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด (วัตถุดิบ แรงงาน ภาษี) ออกจากรายได้
  • ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) : แสดงถึงส่วนที่เหลือของสินทรัพย์ของบริษัทหลังจากหักหนี้สินออกไป ซึ่งสะท้อนถึงเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นและผลกำไรที่ได้รับ เป็นตัวบ่งชี้มูลค่าสุทธิของบริษัทและเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินสถานะทางการเงินของบริษัท

ดังนั้นในการคำนวณ ROE คุณจะต้องแทนที่กำไรสุทธิในส่วนของตัวเศษและส่วนของผู้ถือหุ้นในส่วนของตัวส่วน ROE ที่คำนวณได้จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) และโดยทั่วไปแล้วจะยิ่งสูงยิ่งดี เพราะบ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทในการใช้เงินของผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลกำไรที่สูง

ตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัท A มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาทและส่วนของผู้ถือหุ้น 1,000 ล้านบาท ROE จะเท่ากับ 10% [(100 ล้านบาท / 1,000 ล้านบาท) x 100] ซึ่งหมายความว่าบริษัท A ทำกำไรได้ 10% เมื่อเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น

หลักการพื้นฐานของการวิเคราะห์ ROE ที่นักลงทุนควรทราบ

แล้วนักลงทุนในหุ้นควรใช้ ROE อย่างไร? ลองมาดูจุดสำคัญบางประเด็น

  • ตัวชี้วัดผลกำไร: ROE เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักที่แสดงถึงผลกำไรของบริษัท ROE ที่สูงบ่งบอกถึงความสามารถของบริษัทในการใช้ทุนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสร้างผลกำไร ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเพื่อประเมินผลการดำเนินงานเชิงเปรียบเทียบ
  • ศักยภาพการเติบโต: บริษัทที่มี ROE สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจมีศักยภาพการเติบโตที่สูง ซึ่งบ่งบอกว่าผู้บริหารอาจมีทักษะในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีศักยภาพที่จะทำผลงานได้ดีขึ้นในอนาคต
  • ความสามารถในการชำระหนี้: ROE ยังเป็นประโยชน์ในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท ROE ที่สูงแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้เพียงพอแม้จะมีภาระดอกเบี้ย ซึ่งหมายความว่าแม้จะมีอัตราส่วนหนี้สินที่สูง บริษัทก็สามารถรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงได้
  • ความผันผวนของเศรษฐกิจ: ROE อาจลดลงในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้นจึงควรระมัดระวัง ซึ่งบ่งบอกว่าผลกำไรของบริษัทอาจลดลงและความเสี่ยงด้านเครดิตอาจเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงควรประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
  • แนวโน้มในอดีตและการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง: สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบแนวโน้มในอดีตของ ROE กับ ROE ของคู่แข่ง บริษัทที่มีผลงานที่สม่ำเสมอในระยะยาวอาจเป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าเชื่อถือ ในขณะที่บริษัทที่มีความผันผวนอย่างรวดเร็วหรือมี ROE ต่ำกว่าคู่แข่งอาจต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม

การเปรียบเทียบ ROE ตามอุตสาหกรรมและวิธีการตีความ

การเปรียบเทียบ ROE ตามอุตสาหกรรมสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมมีลักษณะเฉพาะและสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่แตกต่างกัน ระดับของ ROE จึงอาจแตกต่างกันไป

ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยทั่วไปมี ROE สูง เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีจำเป็นต้องลงทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรมและแข่งขันในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่ผลกำไรที่สูงและพยายามที่จะบรรลุ ROE ที่สูงด้วยการใช้เงินทุนอย่างแข็งขัน

ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมที่มั่นคง เช่น ยูทิลิตี้หรือการเงิน มักจะมี ROE ที่ต่ำกว่า โดยทั่วไปอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับการควบคุมหรืออยู่ในช่วงการเติบโตเต็มที่ ทำให้การแข่งขันน้อยลงและมีความสำคัญในการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคง ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้มุ่งเน้นไปที่ผลกำไรที่มั่นคงมากกว่าการใช้เงินทุนอย่างแข็งขัน

ดังนั้นการเปรียบเทียบ ROE ตามอุตสาหกรรมจึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมและสภาพแวดล้อมการแข่งขันของบริษัทนั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจความหมายของ ROE ซึ่งจะช่วยในการประเมิน ROE ของแต่ละบริษัทอย่างถูกต้องและนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุน

ROE ที่สูงหมายความว่าดีเสมอไปหรือไม่? การระบุสัญญาณเตือน

แล้ว ROE ที่สูงหมายความว่าดีเสมอไปหรือไม่? ในความเป็นจริง ROE ที่สูงไม่ได้หมายความว่าจะยั่งยืนได้ตลอดเวลาหรือเป็นสัญญาณของสถานะทางการเงินที่ดีเสมอไป การระบุสัญญาณเตือนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • ควรระวัง ROE ที่สูงซึ่งเกิดจากปัจจัยชั่วคราวบริษัทบางแห่งอาจใช้เทคนิคการบัญชีหรือผลกำไรที่เกิดขึ้นครั้งเดียวเพื่อเพิ่ม ROE ชั่วคราว ซึ่งในกรณีเช่นนี้อาจทำให้สถานะทางการเงินที่แท้จริงอ่อนแอ
  • ROE ที่สูงซึ่งมาพร้อมกับระดับหนี้สินที่สูงอาจมีความเสี่ยงบริษัทที่ใช้หนี้สินอย่างแข็งขันเพื่อให้ได้ ROE ที่สูงอาจเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงิน เช่น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือภาวะการขาดแคลนสินเชื่อ บริษัทเหล่านี้จะประสบปัญหา
  • ควรระวังกรณีที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นโดยไม่มีการเพิ่มขึ้นของรายได้อาจเป็นผลมาจากการเพิ่มราคาหรือการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มกำไรสุทธิเทียม สำหรับการเติบโตที่ยั่งยืน การเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นสิ่งจำเป็น

ดังนั้นนักลงทุนในหุ้นไม่ควรพึ่งพาเพียงตัวเลข ROE แต่ควรระบุสัญญาณเตือนเหล่านี้เพื่อประเมินสถานะทางการเงินและแนวโน้มในอนาคตของบริษัทอย่างครอบคลุม

การสร้างกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นโดยใช้ ROE

ROE เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการลงทุนในหุ้นและสามารถใช้เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย ลองมาดูตัวอย่างบางส่วน

  • เลือกบริษัทที่มี ROE สูงเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นไปที่บริษัทที่มีประสิทธิภาพและผลกำไร โดยทั่วไป ROE ที่สูงบ่งบอกถึงศักยภาพในการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น แต่ควรประเมินความยั่งยืนโดยคำนึงถึงปัจจัยชั่วคราวหรือระดับหนี้สิน
  • ให้ความสำคัญกับบริษัทที่มีแนวโน้ม ROE ปรับปรุงบริษัทที่มี ROE ปรับปรุงอย่างต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของผู้บริหารและศักยภาพในการเติบโต
  • เลือกบริษัทที่มี ROE สูงกว่าคู่แข่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ ROE ที่สูงกว่าคู่แข่งบ่งบอกถึงความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท ซึ่งอาจนำไปสู่การขยายส่วนแบ่งการตลาดหรือการปรับปรุงผลกำไร

เมื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นโดยใช้ ROE ควรพิจารณาตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ เช่น PER, PBR ร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถประเมินบริษัทอย่างครอบคลุมและตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

วันนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ROE ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่นักลงทุนในหุ้นควรทราบ

Cherry Bee
Cherry Bee
종계 농장에서 닭을 키우면서 일어나는 일들에 관한 글, 금융 지식, 여해을 좋아합니다. 그리고 우리의 생활에 다가오는 변화와 새로운 물건들에 관한 정보를 제공합니다.
Cherry Bee
คำศัพท์ทางการเงินที่นักลงทุนหุ้นควรรู้ 'กำไรสุทธิ' กำไรสุทธิเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการลงทุนในหุ้น ซึ่งแสดงถึงกำไรสุทธิของบริษัทในช่วง 1 ปี เป็นจำนวนเงินที่เหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายและภาษีออกจากยอดขาย ยิ่งกำไรสุทธิสูง บริษัทก็จะมีผลประกอบการที่ดีและมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต แต่ควรวิเคราะห์ควบคู่กับตั

3 สิงหาคม 2567

คุณควรรู้เกี่ยวกับอัตรากำไรสุทธิในวิเคราะห์ธุรกิจ? อัตรากำไรสุทธิเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ โดยคำนวณเป็นอัตราส่วนของกำไรสุทธิต่อยอดขาย อัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้นแสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความสามารถในการทำกำไรดี และนักลงทุนจะใช้ข้อมูลนี้ในการประเมินสถานะทางการเงินและศักย

4 สิงหาคม 2567

ทุกสิ่งที่นักลงทุนในตลาดหุ้นควรรู้เกี่ยวกับกำไรจากการดำเนินงานในงบการเงิน เรียนรู้เกี่ยวกับกำไรจากการดำเนินงาน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินความสามารถในการทำกำไรของบริษัทเมื่อลงทุนในหุ้น กำไรจากการดำเนินงานคือจำนวนเงินที่เหลือหลังจากหักต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขาย และค่าใช้จ่ายในการบริหารจากยอดขาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลกำไรท

3 สิงหาคม 2567

ROI คืออะไร? ROI (อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน) เป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าได้รับผลกำไรมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับต้นทุนการลงทุน โดยทั่วไปจะใช้ในหลาย ๆ ด้าน เช่น ธุรกิจ การตลาด เป็นต้น เรียนรู้เกี่ยวกับสูตรการคำนวณ ROI ความสำคัญ และข้อควรระวัง ตลอดจนใช้ในการตัดสินใจ ลงทุนที
꿈많은청년들
꿈많은청년들
ภาพที่มีข้อความว่า ROI
꿈많은청년들
꿈많은청년들

20 พฤษภาคม 2567

3 ประเด็นสำคัญกว่าสไตล์ในการเลือกหุ้น: 1) บริษัทที่ดี 2) หุ้นที่ดี 3) ซื้อในราคาที่ดี Growth Stocks vs. Value Stocks ไม่สำคัญ บริษัทที่ดี หุ้นที่ดี ซื้อในราคาที่ดี คือเคล็ดลับการลงทุนที่แท้จริง การเติบโตของบริษัท การบริหารจัดการที่น่าเชื่อถือ การประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ นักลงทุนรายย่อยควรมีความยืดหยุ่นในการประเมินมูลค่า
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

3 เมษายน 2567

[หุ้นต่างประเทศ] ซื้อหุ้นได้เงินเดือน? ข้อมูลและการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (2/2) Realty Income เป็นหุ้นเติบโตด้านเงินปันผลที่โดดเด่นซึ่งเพิ่มเงินปันผลติดต่อกัน 27 ปี รายได้ปี 2021 เพิ่มขึ้น 26% ความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์ยอดเยี่ยม แต่ต้องระวังความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น หุ้นปันผลสูงที่มั่นคง ซึ่งสามารถรับเงินปันผลไ
이영도
이영도
이영도
이영도

21 เมษายน 2567

เป้าหมายของคนรวย (ตามจำนวนเงิน) บทความนี้ได้อ้างอิงจากหนังสือ "เพื่อนบ้านเศรษฐี" เพื่อแนะนำขั้นตอนการคำนวณความมั่งคั่งที่คาดหวังได้ การตั้งเป้าหมายและแผนการดำเนินการเพื่อก้าวสู่ความมั่งคั่ง การใช้การออม การลงทุน และรายได้จากธุรกิจ เพื่อเป้าหมายมั่งคั่งสุทธิ 640 ล้านบาทภายในอายุ 65 ปี บท
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
บทความนี้ได้อ้างอิงจากหนังสือ "เพื่อนบ้านเศรษฐี" เพื่อแนะนำขั้นตอนการคำนวณความมั่งคั่งที่คาดหวังได้ การตั้งเป้าหมายและแผนการดำเนินการเพื่อก้าวสู่ความมั่งคั่ง การใช้การออม การลงทุน และรายได้จากธุรกิจ เพื่อเป้าหมายมั่งคั่งสุทธิ 640 ล้านบาทภายในอายุ 65 ปี บท
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마

20 เมษายน 2567

ทำไมตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถึงขึ้นอย่างเดียวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ความเข้าใจผิดทั่วไปของนักลงทุนรายย่อยคือการลงทุนในตลาดหุ้นของประเทศที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจะทำให้ผลตอบแทนสูง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ได้มีผลโดยตรงต่อผลตอบแทนของตลาดหุ้น แต่จะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย เช่น กำไรของบริษัท นโยบายคืนผลตอบแทนให้ก
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

3 เมษายน 2567

[หุ้นต่างประเทศ] ซื้อหุ้นแล้วได้เงินใช้ทุกเดือน? ข้อมูลและการวิเคราะห์ บริษัท Realty Income (1/2) Realty Income เป็นบริษัท REIT ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือจ่ายเงินปันผลทุกเดือน บริษัทมีสินทรัพย์ 11,136 รายการ ณ เดือนพฤศจิกายน 2564 และดำเนินงานอย่างมั่นคงด้วยอัตราการว่างเปล่า 1.5% โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำสัญญา ระยะยาวและสัญญาเช่าสุทธิ
이영도
이영도
이영도
이영도

21 เมษายน 2567