Cherry Bee

ROE (อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น) คืออะไร? นักลงทุนหุ้นต้องรู้!

  • ภาษาที่เขียน: ภาษาเกาหลี
  • ประเทศอ้างอิง: ทุกประเทศcountry-flag
  • เศรษฐกิจ

สร้าง: 2024-08-04

สร้าง: 2024-08-04 14:48

ROE หรืออัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น เป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นสร้างผลกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด และเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญในการตัดสินใจลงทุน

ความหมายของ ROE (อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น)

หนึ่งในตัวชี้วัดที่นักลงทุนจำเป็นต้องรู้เมื่อลงทุนในหุ้นก็คือ ROE (Return on Equity, อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น)ตัวชี้วัดนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทสร้างผลกำไรได้มากน้อยเพียงใดจากการใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้น และมีประโยชน์ในการวัดประสิทธิภาพการบริหารของบริษัท

โดยทั่วไปจะคำนวณโดยนำกำไรสุทธิของบริษัทหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น โดยที่ กำไรสุทธิ (Net Income) คือ ผลกำไรที่บริษัทได้รับในช่วงเวลาหนึ่งหลังจากหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด (วัตถุดิบ แรงงาน ภาษี ฯลฯ) ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) คือ ส่วนที่เหลือของสินทรัพย์ของบริษัทหลังจากหักหนี้สินออกแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นและผลกำไรที่ได้รับ ดังนั้น ROE จึงเป็นตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่าบริษัทสร้างรายได้จากเงินทุนของผู้ถือหุ้นได้มากน้อยเพียงใด

โดยทั่วไป ROE ที่สูงขึ้นบ่งบอกถึงประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ดีของบริษัท เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกำไรสูง ในทางกลับกัน หาก ROE ต่ำ อาจบ่งบอกถึงการใช้เงินทุนที่ไม่มีประสิทธิภาพหรือผลกำไรที่ไม่ดีนัก ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง

นักลงทุนควรพิจารณา ROE ร่วมกับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ เมื่อเลือกหุ้น เพื่อประเมินความมั่นคงและศักยภาพการเติบโตของบริษัท และนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนที่เหมาะสม

วิธีการคำนวณ ROE และความเข้าใจสูตร

ดังที่กล่าวไปแล้ว ROE คำนวณได้จาก 'กำไรสุทธิ/ส่วนของผู้ถือหุ้น' มาดูรายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบกัน

  • กำไรสุทธิ (Net Income) : แสดงถึงกำไรสุทธิที่บริษัทได้รับในช่วงเวลาหนึ่งๆ เป็นผลต่างระหว่างรายได้ทั้งหมดกับค่าใช้จ่ายทั้งหมด (วัตถุดิบ แรงงาน ภาษี ฯลฯ)
  • ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) : แสดงถึงส่วนที่เหลือของสินทรัพย์ของบริษัทหลังจากหักหนี้สินออกแล้ว สะท้อนถึงเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นและผลกำไรที่ได้รับ เป็นตัวบ่งชี้ถึงมูลค่าสุทธิของบริษัทและเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินสถานะทางการเงินของบริษัท

ดังนั้นในการคำนวณ ROE ให้แทนค่า กำไรสุทธิ ในส่วนของตัวเศษ และ ส่วนของผู้ถือหุ้น ในส่วนของตัวส่วน ROE ที่คำนวณได้จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ (%) และโดยทั่วไปแล้ว ยิ่งสูงยิ่งดี เนื่องจากแสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้เงินทุนของผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกำไรได้มาก

ตัวอย่างเช่น หากบริษัท A มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 1,000 ล้านบาท ROE จะเท่ากับ 10% [(100 ล้านบาท / 1,000 ล้านบาท) x 100] ซึ่งหมายความว่า บริษัท A สร้างผลกำไรได้ 10% จากเงินทุนของผู้ถือหุ้น

หลักการพื้นฐานในการวิเคราะห์ ROE ที่นักลงทุนควรทราบ

แล้วนักลงทุนหุ้นควรใช้ ROE อย่างไร? ลองมาดูจุดสำคัญๆ กัน

  • ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไร: ROE เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดหลักที่แสดงถึงความสามารถในการทำกำไรของบริษัท ROE สูงแสดงให้เห็นว่าบริษัทใช้เงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลกำไรได้ดี ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน แต่สิ่งสำคัญคือต้องเปรียบเทียบกับคู่แข่งหรือค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเพื่อประเมินผลการดำเนินงานโดยสัมพัทธ์
  • ศักยภาพในการเติบโต: บริษัทที่มี ROE เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจมีศักยภาพในการเติบโตสูง ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริหารบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน และมีความสามารถในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในอนาคต
  • ความสามารถในการชำระหนี้: ROE มีประโยชน์ในการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัท ROE สูงแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างผลกำไรได้เพียงพอที่จะจ่ายดอกเบี้ยและยังคงรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงแม้ว่าอัตราส่วนหนี้สินจะสูงก็ตาม
  • ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ: ในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ROE อาจลดลง ดังนั้นจึงต้องระมัดระวัง เนื่องจากอาจบ่งชี้ว่าผลกำไรของบริษัทลดลงและความเสี่ยงด้านเครดิตเพิ่มขึ้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจลงทุนควรประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ
  • แนวโน้มในอดีตและการเปรียบเทียบกับคู่แข่ง: การเปรียบเทียบแนวโน้ม ROE ในอดีตกับ ROE ของคู่แข่งก็มีความสำคัญเช่นกัน บริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอในระยะยาวน่าจะเป็นเป้าหมายการลงทุนที่น่าเชื่อถือ ในทางกลับกัน บริษัทที่มี ROE เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วหรือต่ำกว่าคู่แข่งอาจต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติม

การเปรียบเทียบและการตีความ ROE ตามแต่ละอุตสาหกรรม

การเปรียบเทียบ ROE ตามแต่ละอุตสาหกรรมสามารถให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจลงทุน เนื่องจากแต่ละอุตสาหกรรมมีลักษณะเฉพาะและสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่แตกต่างกัน ทำให้ระดับ ROE อาจแตกต่างกันไป

ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีมักจะมี ROE สูง เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีจำเป็นต้องลงทุนจำนวนมากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ และแข่งขันในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทเหล่านี้มุ่งเน้นการสร้างผลกำไรสูงและการใช้เงินทุนอย่างแข็งขันเพื่อให้ได้ ROE สูง

ในทางกลับกัน อุตสาหกรรมที่มั่นคง เช่นสาธารณูปโภคหรือการเงิน มักจะมี ROE ที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล่านี้มักอยู่ภายใต้การควบคุมหรืออยู่ในช่วงที่เติบโตเต็มที่แล้ว ทำให้การแข่งขันน้อยลงและการสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงมีความสำคัญมากกว่า ดังนั้นจึงมุ่งเน้นการสร้างผลกำไรที่มั่นคงมากกว่าการใช้เงินทุนอย่างแข็งขัน

ดังนั้นในการเปรียบเทียบ ROE ตามแต่ละอุตสาหกรรม จำเป็นต้องพิจารณาลักษณะเฉพาะและสภาพแวดล้อมการแข่งขันของอุตสาหกรรมนั้นๆ เพื่อตีความความหมายของ ROE โดยการทำเช่นนี้จะช่วยให้ประเมิน ROE ของแต่ละบริษัทได้อย่างถูกต้องและนำไปใช้ในการตัดสินใจลงทุนได้

ROE สูงหมายถึงดีเสมอไปหรือไม่? การระบุสัญญาณเตือน

แล้ว ROE สูงหมายถึงดีเสมอไปหรือไม่? ในความเป็นจริง ROE ที่ดูสูงอาจไม่ได้หมายความว่าจะยั่งยืนหรือสะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่ดีเสมอไป สิ่งสำคัญคือต้องระบุสัญญาณเตือนบางอย่าง

  • ระวัง ROE สูงที่เกิดจากปัจจัยชั่วคราวบางบริษัทอาจใช้เทคนิคการบัญชีหรือผลกำไรครั้งเดียวเพื่อทำให้ ROE ดูสูงขึ้นชั่วคราว ซึ่งในกรณีเช่นนี้ สถานะทางการเงินที่แท้จริงอาจเปราะบางกว่า
  • ROE สูงที่ผูกติดกับระดับหนี้สินที่สูงเป็นสัญญาณเสี่ยงบริษัทที่ใช้หนี้สินอย่างแข็งขันเพื่อสร้าง ROE สูงอาจมีความเสี่ยงทางการเงิน เช่น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือปัญหาทางการเงิน บริษัทเหล่านี้อาจประสบปัญหา
  • กรณีที่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นแต่ยอดขายไม่เพิ่มขึ้นก็ควรระวังอาจเป็นผลมาจากการขึ้นราคาหรือลดค่าใช้จ่ายเพื่อทำให้กำไรสุทธิดูสูงขึ้นเทียม การเติบโตที่ยั่งยืนจำเป็นต้องมีการเพิ่มยอดขาย

ดังนั้นนักลงทุนหุ้นจึงไม่ควรพึ่งพาตัวเลข ROE เพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาสัญญาณเตือนดังกล่าวและประเมินสถานะทางการเงินและแนวโน้มในอนาคตของบริษัทอย่างรอบด้าน

การสร้างกลยุทธ์การลงทุนหุ้นโดยใช้ ROE

ROE เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการลงทุนหุ้น และสามารถใช้ในการสร้างกลยุทธ์การลงทุนที่หลากหลาย ลองมาดูตัวอย่างกัน

  • เลือกหุ้นที่มี ROE สูงโดยทั่วไป ROE สูงบ่งบอกถึงประสิทธิภาพและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท และมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้น แต่ตามที่กล่าวไปแล้ว ควรพิจารณาถึงความยั่งยืนของ ROE และระดับหนี้สินด้วย
  • ให้ความสนใจกับบริษัทที่มีแนวโน้ม ROE ปรับตัวดีขึ้นROE ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องบ่งชี้ว่าผู้บริหารบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะเติบโตได้
  • เลือกหุ้นที่มี ROE สูงกว่าคู่แข่งROE ที่สูงกว่าคู่แข่งแสดงถึงความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท และคาดหวังได้ว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและเพิ่มผลกำไรได้

เมื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนหุ้นโดยใช้ ROE ควรพิจารณาร่วมกับตัวชี้วัดทางการเงินอื่นๆ เช่น PER, PBR เพื่อประเมินบริษัทอย่างรอบด้านและตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

บทสรุป

วันนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ ROE ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่นักลงทุนหุ้นควรทราบ

ความคิดเห็น0

3 ประเด็นสำคัญกว่าสไตล์ในการเลือกหุ้น: 1) บริษัทที่ดี 2) หุ้นที่ดี 3) ราคาที่ดีการซื้อหุ้นของบริษัทที่ดีที่มีการเติบโตในราคาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ และควรพิจารณาถึงความสำคัญของผู้ถือหุ้นรายย่อยในสายตาของผู้บริหารด้วย
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

April 3, 2024

เป้าหมายความมั่งคั่ง (ตามจำนวนเงิน)อ้างอิงจากหนังสือ "เพื่อนบ้านเศรษฐี" เพื่อกำหนดเป้าหมายจำนวนเงินและวิธีการเพื่อความมั่งคั่ง โดยวางแผนเพิ่มสินทรัพย์สุทธิผ่านการออมและการลงทุน
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마
(로또 사는 아빠) 살림 하는 엄마

April 20, 2024

เหตุผลที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นและนโยบายการคืนผลประโยชน์ให้ผู้ถือหุ้น ในขณะที่ประเทศเกาหลีใต้มีผลตอบแทนที่ต่ำเนื่องจากการลดทอนคุณค่าของผู้ถือหุ้น
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자
고집스런가치투자

April 3, 2024

[หุ้นต่างประเทศ] ซื้อหุ้นแล้วได้เงินใช้ทุกเดือน? ข้อมูลและการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (2/2)รวบรวมข้อมูลการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (O) ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และข้อมูลเกี่ยวกับเงินปันผล หุ้นที่น่าสนใจที่สามารถรับเงินปันผลเหมือนได้เงินใช้ทุกเดือน แต่ก็มีความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
이영도
이영도
이영도
이영도

April 21, 2024

[หุ้นต่างประเทศ] ซื้อหุ้นแล้วได้เงินใช้ทุกเดือนเหรอ? ข้อมูลและการวิเคราะห์บริษัท Realty Income (1/2)บทความนี้กล่าวถึงข้อมูลบริษัทและการวิเคราะห์ธุรกิจของ Realty Income (O) บริษัท REIT ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหุ้นจ่ายเงินปันผลรายเดือนและเป็นส่วนหนึ่งของดัชนี S&P 500
이영도
이영도
이영도
이영도

April 21, 2024