หัวข้อ
- #เทคโนโลยีแห่งอนาคต
- #อินเทอร์เน็ต
- #นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
- #ปัญญาประดิษฐ์
- #สมาร์ทโฟน
สร้าง: 2024-07-03
สร้าง: 2024-07-03 09:11
เราจะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเทคโนโลยี 10 อย่างที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเราอย่างรุนแรง ตั้งแต่สมาร์ทโฟนที่เราใช้กันทุกวัน ไปจนถึงเทคโนโลยีการสำรวจอวกาศที่น่าทึ่ง มีเทคโนโลยีมากมายที่เปลี่ยนแปลงโลก และในที่นี้ เราได้คัดสรรสิ่งที่น่าประทับใจเป็นพิเศษมาให้ดู
อินเทอร์เน็ตพัฒนาขึ้นในปี 1969 โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา และต่อมาได้แพร่หลายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของมนุษย์
การถือกำเนิดของอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นเพื่อให้การสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างราบรื่น ในช่วงแรกนั้นใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางทหาร แต่ต่อมาก็เริ่มนำไปใช้ในหลากหลายสาขา เช่น การวิจัยทางวิชาการ หรือการดำเนินธุรกิจ ในช่วงปี 1990 เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW) ได้ถือกำเนิดขึ้น ทำให้การใช้อินเทอร์เน็ตแพร่หลายมากขึ้น และปัจจุบันมีประชากรทั่วโลกประมาณครึ่งหนึ่งใช้อินเทอร์เน็ต
อินเทอร์เน็ตทำให้การรวบรวมและการแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องง่าย ทำให้ขยายขอบเขตความรู้ และส่งเสริมการสื่อสารและความร่วมมือระหว่างบุคคล ทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ยังพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล เช่น การค้าออนไลน์และการธนาคารออนไลน์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีในอนาคต เช่น ปัญญาประดิษฐ์และข้อมูลขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตาม การแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตก็ก่อให้เกิดผลข้างเคียงเช่นกัน ปัญหาความปลอดภัย เช่น การรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลและอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพิ่มมากขึ้น และปัญหาทางสังคม เช่น การติดอินเทอร์เน็ต ก็เกิดขึ้นเช่นกัน
ถึงกระนั้น อินเทอร์เน็ตก็ยังคงเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในสังคมปัจจุบัน และอิทธิพลของอินเทอร์เน็ตก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
การปฏิวัติสมาร์ทโฟนที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2007 เมื่อแอปเปิลเปิดตัวไอโฟน ได้สร้างคลื่นกระเพื่อมไปทั่วโลก
สมาร์ทโฟนแตกต่างจากโทรศัพท์มือถือแบบเดิมตรงที่มันมีระบบปฏิบัติการและแอปสโตร์ ทำให้สามารถใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชั่น ผ่านสมาร์ทโฟน ผู้คนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา ค้นหาข้อมูล ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อติดต่อกับเพื่อนๆ เล่นเกม ฟังเพลง ดูวิดีโอได้
ส่งผลให้รูปแบบการสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แทนที่จะใช้ข้อความหรือโทรศัพท์แบบเดิม ผู้คนหันมาใช้โซเชียลมีเดีย เช่น ไลน์ เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ อินสตาแกรม เพื่อพูดคุยแบบเรียลไทม์มากขึ้น นอกจากนี้ การแชร์และรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านแพลตฟอร์มวิดีโอ เช่น ยูทูบ เน็ตฟลิกซ์ ก็กลายเป็นเรื่องปกติ
สมาร์ทโฟนยังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการทำงานอีกด้วย การใช้ อีเมล บริการคลาวด์ แอปพลิเคชันสำนักงาน ทำให้สามารถทำงานนอกสำนักงานได้ และเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานระยะไกลและการทำงานที่บ้าน
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายขึ้นมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นถึงปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคกระดูกสันหลังคดจากการก้มหน้า ใช้สายตาผิดปกติ นอนไม่หลับ เพิ่มมากขึ้น และปัญหาทางสังคม เช่น การติดโซเชียลมีเดีย ก็เริ่มปรากฏให้เห็น
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นแนวคิดที่สร้างขึ้นจากวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิทยาศาสตร์ความรู้ความเข้าใจ โดยเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรเลียนแบบและแสดงพฤติกรรมของมนุษย์ได้ หลังจากที่ศาสตราจารย์จอห์น แมคคาร์ธี ได้แนะนำแนวคิดนี้เป็นครั้งแรกในปี 1956 ปัญญาประดิษฐ์ก็มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ปัญญาประดิษฐ์ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อยๆ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือผู้ช่วยเสมือนเสียง เช่น "Siri", "Google Assistant", "Kakao" ผู้ช่วยเหล่านี้สามารถรับรู้คำสั่งเสียงของผู้ใช้ และให้ข้อมูลต่างๆ เช่น สภาพอากาศ ปฏิทิน ข่าวสาร หรือเล่นเพลง โทรออก เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังใช้เทคโนโลยีการจดจำภาพเพื่อระบุวัตถุหรือบุคคลในภาพถ่าย หรือใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าเพื่อสร้างระบบรักษาความปลอดภัย และในรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติก็มีการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เช่นกัน รถยนต์สามารถรับรู้สถานการณ์รอบข้าง ตัดสินใจ และควบคุมการขับขี่ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากขึ้น
ในวงการแพทย์ก็มีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์มาใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น CT หรือ MRI เพื่อวินิจฉัยโรค เช่น มะเร็ง โรคสมองเสื่อม หรือแนะนำวิธีการรักษา นอกจากนี้ยังใช้ในการพัฒนายาใหม่ ช่วยวิเคราะห์ผลการทดลองและค้นหาตัวเลือกยาใหม่ๆ
อย่างที่เห็น ปัญญาประดิษฐ์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และศักยภาพและความเป็นไปได้ของปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด คาดว่าในอนาคต ปัญญาประดิษฐ์จะพัฒนาไปอีกขั้น และทำให้ชีวิตของมนุษย์มีความสุขและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
ไม่มีชื่อเรื่อง
ความคิดเห็น0